วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กระชายดำ สมุนไพรเพิ่มสมรรถภาพท่านชาย

กระชายดำ หรือ โสมไทย หรือ โสมกระชายดำ ภาษาอังกฤษ Black Galingale กระชายดํา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Kaempferia parviflora Wallich. จัดอยู่ในวงศ์ ZINGIBERACEAE
สมุนไพรกระชายดำ ยังมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่นๆ อีกเช่น ขิงทราย (มหาสารคาม)กะแอน ระแอน ว่านกั้นบัง ว่านกำบัง ว่านกำบังภัย ว่านจังงัง ว่านพญานกยูง (ภาคเหนือ) เป็นต้น มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้หนาแน่นในแถบมาเลเซีย สุมาตรา เกาะบอร์เนียว อินโดจีน และในประเทศไทย และมีเขตการกระจายพันธุ์ทั่วไปในเอเชียเขตร้อน ในประเทศจีนตอนใต้ อินเดีย และพม่า สำหรับประเทศไทยนั้นมีการปลูกกระชายดำมากในจังหวัดเลย ตาก กาญจนบุรี และจังหวัดอื่นๆ ทางภาคเหนือ
กระชายดำมีสรรพคุณที่หลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องของการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้กับผู้ชาย เราจึงเห็นอาหารเสริมท่านชาย สมุนไพรเพิ่มขนาด สมุนไพรทดแทนไวอากร้า ยาเพิ่มสมรรถภาพ สมุนไพรเพิ่มขนาด ฯลฯ หลายชนิดใช้ กระชายดำเป็นส่วนผสม ทำให้คนส่วนใหญ่จึงมักรู้จัก กระชายดำ ว่าเป็น สมุนไพรยอดชาย สมุนไพรเพิ่มขนาดน้องชาย สมุนไพรเสริมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งที่จริงเรื่องของการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในสรรพคุณอันหลากหลายของกระชายดำเท่านั้นเอง ซึ่งสรรพคุณของกระชายดำนั้นสามารถแบ่งออกหลากหลายได้ดังนี้
1.      ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยชะลอความแก่ มีคุณค่าทางคงกระพันชาตรี ด้วยการใช้เหง้านำมาหั่นเป็นแว่น แล้วนำไปตากแดดจนแห้ง นำมาบดให้เป็นผงละเอียดผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน ใช้กินเช้าเย็น
2.      ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ด้วยการใช้เหง้าผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นเป็นยาดองเหล้า (เหง้า)
3.      ว่านกระชายดำ สรรพคุณช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (เหง้า)
4.      ช่วยบำรุงผิวพรรณของสตรีให้สวยสดใส ดูผุดผ่อง (เหง้า)
5.      ช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศชาย[6] หากสุภาพสตรีทานแล้วจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนทางเพศ (เหง้า)
6.      ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ บำรุงสมรรถภาพทางเพศชาย แก้กามตายด้าน ด้วยการใช้เหง้าสดนำมาดองกับเหล้าขาวและน้ำผึ้งแท้ ดองทิ้งไว้ประมาณ 9-15 วัน แล้วนำมาใช้ดื่มวันละ 1-2 เป๊ก (กระชายดําไม่ได้เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศ แต่ช่วยทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ง่ายและบ่อยขึ้น มีระยะเวลาในการแข็งตัวที่นานขึ้น และสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาดังกล่าวก็สามารถรับประทานเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงขึ้นได้)
7.      ช่วยกระตุ้นระบบประสาท บำรุงประสาท ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย (เหง้า)
8.      ช่วยในการนอนหลับ แก้อาการนอนไม่ค่อยหลับในตอนกลางคืน ช่วยทำให้นอนหลับดีขึ้น (เหง้า)
9.      ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยขยายหลอดเลือดหัวใจ แก้โรคหัวใจ (เหง้า)
10.   ช่วยบำรุงโลหิตของสตรี (เหง้า)
11.   ช่วยในระบบหมุนโลหิตของร่างกาย ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น (เหง้า)
12.   ช่วยทำให้เจริญอาหาร (เหง้า)
13.   ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต รักษาสมดุลของความดันโลหิต (เหง้า)
14.   ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (เหง้า)
15.   ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ (เหง้า)
16.   ช่วยแก้หอบหืด (เหง้า)
17.   ช่วยแก้อาการใจสั่นหวิว แก้ลมวิงเวียน (เหง้า)
18.   เหง้าใช้ต้มดื่มแก้โรคตา ช่วยรักษาสายตา (เหง้า)
19.   ช่วยรักษาแผลในช่องปาก ปากเป็นแผล ปากเปื่อย ปากแห้ง (เหง้า)
20.   ช่วยแก้โรคตานซางในเด็ก แก้ซางตานขโมยในเด็ก (เหง้า)
21.   ช่วยแก้อาการแน่นหน้าอก (เหง้า)
22.   ช่วยรักษาโรคในช่องท้อง มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ (เหง้า)
23.   ช่วยขับลม แก้อาการจุกเสียด (เหง้า)
24.   ช่วยแก้อาการปวดท้อง ปวดมวนในท้อง อาการท้องเดิน (เหง้า)หากมีอาการท้องเดินให้ใช้เหง้านำมาปิ้งไฟให้สุกแล้วนำมาตำให้ละเอียดใช้ผสมกับน้ำปูนใสแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาดื่มครั้งละ 3-5 ช้อนแกงหลังจากการถ่ายเนื่องมีอาการท้องเดิน (เหง้า)
25.   ช่วยรักษาโรคท้องร่วง (เหง้า)
26.   ช่วยในการย่อยอาการ รักษาระบบการย่อยอาหารให้เกิดความสมดุล (เหง้า)
27.   กระชายดำ สรรพคุณแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ (เหง้า)
28.   ช่วยรักษาโรคบิด แก้อาการบิดเป็นมูกเลือด (เหง้า)
29.   สรรพคุณกระชายดำ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร อันเนื่องมาจากการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา (เหง้า
30.   ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการขัดเบา แก้ปัสสาวะพิการ (เหง้า)
31.   ช่วยแก้อาการตกขาวของสตรี (เหง้า)
32.   ช่วยขับประจำเดือน แก้อาการประจำเดือนมาไม่เป็นปกติของสตรี (เหง้า)
33.   เหง้าใช้โขลกผสมกับเหล้าขาวคั้นเป็นน้ำดื่ม ช่วยแก้โรคมดลูกพิการ มดลูกหย่อนได้ (เหง้า)
34.   ช่วยแก้ฝีอักเสบ (เหง้า)
35.   ช่วยรักษากลากเกลื้อน (เหง้า)
36.   ช่วยแก้อาการปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดกล้ามเนื้อ และมีอาการเหนื่อยล้า (เหง้า)
37.   ช่วยรักษาโรคปวดข้อ (เหง้า)
38.   ช่วยรักษาโรคเก๊าท์ (เหง้า)
39.   ช่วยแก้อาการเหน็บชา (เหง้า)
40.   กระชายดำ สรรพคุณทางยาช่วยขับพิษต่างๆ ในร่างกาย (เหง้า)
41.   ช่วยรักษาอาการมือเท้าเย็น (เหง้า)
42.   กระชายดำมีฤทธิ์ในการช่วยรักษาเชื้อราที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคผิวหนัง (เหง้า)
สรรพคุณสำหรับผู้ชาย
ช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศชาย กระตุ้นประสาทเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ แก้ตายด้าน เพิ่มความอึด ความแข็งตัว ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ ชะลอความแก่ ขับลม ขับปัสสาวะ แก้โรคกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
สรรพคุณสำหรับสตรี

ช่วยบำรุงเลือดสตรี แก้ตกขาว ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ตามตำรากล่าวว่า กระชายดำมีสรรพคุณแก้โรคในปาก เช่น ปากเปื่อย ปากเป็นแผล แก้ปวดมวนท้อง รักษาโรคปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกาย รักษาโรคภูมิแพ้ขับพิษต่างๆในร่างกาย รักษาโรคบิด เป็นต้น จากข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์พบว่า กระชายมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ ต้านการอักเสบเทียบได้กับยาหลายชนิด เช่น แอสไพริน อินโดเมธาซิน และเพรดนิซิโลน แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการวิจัยสนับสนุนสรรพคุณของกระชายดำมากนัก แต่มีการใช้กระชายดำเพื่อเสริมสุขภาพกันมาก



โสมเกาหลียาชูกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ




1. มีผลต่อสมรรภาพของร่างกาย / ป้องกันความชรา
  • ช่วยป้องกันความอ่อนเพลีย, ความเมื่อยล้า
  • ทำให้ร่างกายมีความทนทานต่อการทำงานหรือการออกกำลังกายได้ยาวขึ้น ช่วยให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ
  • ช่วยฟื้นฟูความสมบูรณ์ของร่างกาย โดยเฉพาะหลังอาการเจ็บป่วย
  • ป้องกันความชรา กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ของอวัยวะต่างๆ
2. ผลต่อระบบการไหลเวียนของโลหิต / ความดันโลหิต / ปริมาณน้ำตาลในเลือด
  • ช่วยทำความสะอาดหลอดเลือด ขจัดไขมันตามผนังหลอดเลือด
  • ขจัดสารพิษต่างๆในเลือด ช่วยให้เกล็ดเลือดมีความสมบูรณ์
  • กระตุ้นการเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาว ป้องกันโรคโลหิตจาง
  • ปรับระบบความดันของโลหิต ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
  • ป้องกันการช็อกในภาวะที่เสียเลือดมาก ช่วยในสตรีที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับรอบเดือน
  • บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
  • ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน
3. ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล ป้องกันการติดเชื้อ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ สุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ เป็นหวัดง่าย แพ้อากาศ ไอหรือจามบ่อยๆ
4. ผลต่อระบบประสาทสัมผัส และระบบความจำ
  • ใช้กระตุ้นให้ร่างกายมีความตื่นตัว ป้องกันและลดความเครียด
  • ทำให้สมองปลอดโปร่ง เสริมสร้างระบบความจำ
  • ยืดอายุเซลล์สมอง ช่วยให้ผ่อนคลาย
5. ผลต่อระบบการย่อย การดูดซึมและการขับถ่าย
  • ช่วยป้องกันโรคอ้วน ไขมันสะสม ฮอร์โมนผิดปกติ
  • โรคลำใส้อักเสบ
  • ท้องผูก ริดสีดวงทวาร
6. ผลต่อระบบอวัยวะภายใน (หัวใจ ตับ ปอด ม้าม ไต)
  • ควบคุมการผลิตและการทำงานของฮอร์โมนต่างๆให้อยู่ในภาวะสมดุล ป้องกันอาการเสียหาย
  • เสริมสร้างความแข็งแรงของอวัยวะภายในต่างๆ
7. ผลต่อระบบสืบพันธุ์และสมรรถภาพทางเพศ
  • กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนทางเพศ
  • ฟื้นฟูความสมบูรณ์ของเสปิร์ม และไข่
  • เพิ่มปริมาณและความแข็งแรงของเสปิร์ม

10 ปฏิกิริยาทางสรรพคุณของโสมเกาหลี
  1. ปฏิกิริยาต่อระบบประสาทส่วนกลาง  โสมมีสรรพคุณต่อการกระตุ้นโดยทั่วไปต่อระบบการทำงานของเส้นประสาท และการทำงานโดยขบวนการกระตุ้นและยับยั้งในส่วนเนื้อของสมองใหญ่ (Cerebral – Cortex) เพื่อยกระดับการตอบสนองทั้งสองด้านของสมองให้สูงขึ้น โสมยังมีปฏิกิริยา ในการบำรุงกำลังและมีผลในการกระตุ้นที่สำคัญต่อเนื้อเยื้อที่สำคัญของร่างกาย ทำให้มีผลในทางที่ดีต่อระบบการตอบสนองที่เกี่ยวข้องกับการทำงานหลายอย่างของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งปฏิกิริยาเหล่านี้มีประสิทธิภาพต่อ ความอ่อนเพีลย การนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร และยังมีประโยชน์สำหรับโรคประสาท ความไม่สบายทางจิตใจ หรือโรคจิตเภทภาวะการอักเสบของสมอง (Encephalitis Condition) ที่ตามด้วยความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
  2. ปฏิกิริยาต่อความดันโลหิต   โสมมีผลในการลดความดันโลหิตที่เกิดจากการระงับการทำงานของส้นสมองคู่ที่ 10 (Vagus nerve) แต่ผลนี้ถูกยับยังโดยสิ้นเชิงในสัตว์ที่ได้รับการทดลอง อะโทรปิน (Atropion) โสมมีผลที่แยกออกจากกันของ อีสตานีนและทิโรโตนิน (Hystamin& Terotonin) และลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดที่เกี่ยวกับความสูง และมีผลในทางป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว
  3. ปฏิกิริยาต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูง โสมเกาหลีมีผลสำหรับโรคเบาหวานและยับยั้งภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากการหลั่งของฮอร์โมนอะดรีนาลิน (Adrenalin) และการกินอาหารซึ่งโสมจะช่วยควบคุมระบบการเผาผลาญอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรด (Metabolism of Carbohydrates) และการกระตุ้นการสร้างอินซูลิน
  4. ปฏิกิริยาต่อเม็ดเลือด โสมมีประสิทธิภาพช่วยฟื้นฟูระบบความต้านทานที่อ่อนแอให้กลับแข็งแรงเป็นปกตินักวิจัยพบว่าโสมมีผลให้ระบบภูมิคุ้มกันมีขีดความสามารถถึงระดับสูงสุด ทั้งในส่วนของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันและในส่วนแอนติบอดี้ที่เป็นอาวุธของเซลล์เม็ดเลือดขาว เรื่องของโสมเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักวิจัยว่าช่วยบำรุงเลือดช่วยเร่งการผลิตไขกระดูกให้เร็วขึ้น โสมมีขีดความสามารถในการกระตุ้นร่างกายให้ผลิตสารต่อต้านการติดเชื้อในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งสารตัวนี้มีชื่อเรียกว่า โปรตีนคุ้มกันต่อต้านเชื้อไวรัส นั้นเอง
  5. ปฏิกิริยาต่อระบบความดัน การไหลเวียนของโลหิต และลดปริมาณคอเสลเตอรอล การวิจัยแสดงให้เห็นว่าโสมเป็นตัวช่วยเสริมของระบบกำจัดและป้องกันโรคที่เกิดจากการไหลเวียนของเลือดได้ในภาวะที่ร่างกายเกิดความดันโลหิตสูงโสมมีผลทำให้ความดันลดลงได้เล็กน้อย แต่ในรายที่ภาวะความดันโลหิตต่ำโสมจะแสดงสรรพคุณทำให้ความดันต่ำกลับคืนสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ผลทางคลินิคของโรงพยาบาลของจีนพบว่าโสมมีความจำเป็นฉุกเฉินต่อการฟื้นฟูความดันโลหิต และป้องกันไม่ให้คนไข้เกิดอาการช็อกในรายที่เสียเลือดมาก การวิจัยสรรพคุณโสมในโซเวียดและเยอรมันพบว่า โสมจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญของเสียในร่างกายและช่วยให้ระบบเมตาบอลิซึ่มสามารถทำหน้าที่ได้อย่างปกติ การรายงานของ ดร. เอลสัน แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนชินระบุว่า “โสมมีสรรพคุณสูงสุดในการลดระดับคอเลสเตอรอลในสัตว์ทดลอง”
  6. ปฏิกิริยาต่อสมรรถนะทางเพศ สรรพคุณอันเลื่องลือสูงสุดของโสมอีกอย่างคือ เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับพลังทางเพศ ข้อมูลในประเด็นนี้ปรากฏชัดเจนว่าโสมมีสรรพคุณกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยพบว่า กลีโคไซด์ ที่มีในโสมสามารถกระตุ้นการเติบโตของอวัยวะเพศในสัตว์ที่อายุยังน้อยโสมมีฤทธิ์กระตุ้นต่อมลูกหมากให้แข็งแรงเพื่อผลิตเชื่ออสุจิได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  7. ปฏิกิริยาต่อความเสื่อมสภาพของเซลล์ โสมมีสรรพคุณเทียบเท่าได้กับฮอร์โมนตัวหนึ่ง แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือ โสมมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนของตัวเอง เพื่อเพิ่มพูนความต้านทานให้แก่ร่างกายทำให้ช่วยชะลอความเลื่อมถอยของร่างกายลงได้ และยังพบว่าโสมมีสรรพคุณต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ รวมทั้งยังสามารถชะลออายุของเซลล์ชะลอการแยกตัวของเซลล์ออกจากเนื้อเยื่ออีกด้วย
  8. ปฏิกิริยาเร่งการฟื้นฟูสุขภาพของคนไข้ คุณสมบัติของโสมที่มีต่อการกระตุ้นให้ร่างกายเสริมสร้างและเพิ่มภูมิคุ้มกัน อันเป็นการฟื้นฟูและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ช่วยเร่งการสร้างเม็ดเลือดขาวและซ่อมแซมเซลล์ที่บกพร่องต่างๆ ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นสุขภาพจิตดีขึ้น ทำให้คนไข้ในระหว่างพักฟื้นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
  9. ปฏิกิริยาต่อการพิ่มสมรรถนะการทำงานของร่างกาย  คุณสมบัติต่อต้านความเมื่อยของโสมทำให้ร่างกายสามารถปลดปล่อยพลังงานออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะทำงานหรือออกกำลังกาย สารพลังงาน ATP. และไกลโคเจนในกล้ามเนื้อจะถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็ว และเกิดกรดแลกติกขึ้นอย่างมากมาย เป็นเหตุให้กล้ามเนื้อมีอาการเมื่อยล้าซึ่งโสมจะช่วยให้ผนังเซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้นจากปกติถึง 21% ส่งผลให้ขบวนการเผาผลาญภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้นร่างกายจึงปลดปล่อยพลังงานได้มากขึ้น โสมยังช่วยในการปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้กลับคืนสู่สภาพปกติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ร่างกายเหน็ดเหนื่อยช้าลง มีความทนทานต่อการทำงาน การออกกำลังกายหรือการประกอบกิจกรรมต่างๆ ได้ยาวนานขึ้น
  10. ปฏิกิริยาต่อการขจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย (ขจัดสารพิษในร่างกาย) สาร “ซาโปนิน” ในรากโสม คือสารประกอบสำคัญใน
    โสมที่มีหน้าที่ขับถ่ายสารพิษ ทำความสะอาดโลหิตและหลอดเลือด ซึ่งมีคุณสมบัติละลายในน้ำ และน้ำมัน ทำให้เกิดฟองมาก เช่น เดียวกับหลักการทำงานของสบู่ ในการชำระล้างความสกปรกต่างๆ และสรรพคุณในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เช่น สารพิษต่างๆ เอ็นโดท็อกซิน ปรอทในรูปสารอินทรีย์ แค๊ดเมี่ยม ไขมันไฮเปอร์ออกไซด์ อาธีโรม เป็นต้น



สนใจข้อมูลเพิ่มเติม www.takenthailand.com
www.facebook.com/takenthailand

ถังเช่า ช่วยเพิ่มสมรรถภาพจริงหรือ? (บทความดีๆจากมหิดล)

ณ วันนี้คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยิน คำว่า “ถั่งเช่า” หรือ “ถั่งเฉ้า” สมุนไพรที่อ้างกันว่าช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ จริง ๆ แล้ว “ถั่งเช่า” คืออะไร มีสรรพคุณตามคำกล่าวอ้างเหล่านั้นหรือไม่? บทความนี้มีคำตอบ
“ถั่งเช่า” หรือที่รู้จักกันว่า “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” หรือ ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า แปลเป็นไทยว่า“ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” หรือที่เรียกกันว่า “หญ้าหนอน” ทั้งนี้เพราะว่า ยาสมุนไพรชนิดนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นตัวหนอน คือ ตัวหนอนของผีเสื้อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus Oberthiir และบนตัวหนอนมีเห็ดชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cordyceps sinensis (Berk.) Saec. หนอนชนิดนี้ในฤดูหนาวจะฝังตัวจำศีลอยู่ใต้ดินภูเขาหิมะ เมื่อน้ำแข็งเริ่มละลาย สปอร์เห็ดจะพัดไปกับน้ำแข็งที่ละลาย แล้วไปตกที่พื้นดิน จากนั้นตัวหนอนเหล่านี้ก็จะกินสปอร์ และเมื่อฤดูร้อนสปอร์ก็เริ่มเจริญเติบโตเป็นเส้นใยโดยอาศัยการดูดสารอาหารและแร่ธาตุจากตัวหนอนนั้น เส้นใยงอกออกจากท้องของตัวหนอน และงอกออกจากปากของมัน เห็ดเหล่านี้ต้องการแสงอาทิตย์มันจึงงอกขึ้นสู่พื้นดิน รูปลักษณะภายนอกคล้ายไม้กระบอก ส่วนตัวหนอนเองก็จะค่อย ๆ ตายไป อยู่ในลักษณะของหนอนตายซาก ฉะนั้น “ถั่งเช่า” ที่ใช้ทำเป็นยาก็คือ ตัวหนอนและเห็ดที่แห้งแล้วนั่นเอง


ถั่งเช่าพบได้ในแถบทุ่งหญ้าบนภูเขาประเทศจีน (ธิเบต) เนปาล และภูฏาน ระดับความสูง 10,000-12,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่เพาะในบริเวณภาคใต้ในมณฑลชิงไห่ เขตซางโตวในธิเบต มณฑลเสฉวน ยูนนาน และกุ้ยโจว การเก็บถั่งเช่าจะเก็บในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ เมื่อขุดตัวหนอนขึ้นจากดินแล้ว ล้างน้ำให้สะอาด แล้วตากแห้ง การเก็บรักษา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง
“ถั่งเช่า” ถือได้ว่าเป็นยาสมุนไพรที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศจีนนานนับศตวรรษ มีสรรพคุณทางยาแผนโบราณที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศจีนในเรื่องของกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ และใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ และไต เป็นต้น
องค์ประกอบทางเคมีของถั่งเช่า
ถั่งเช่าอุดมไปด้วยสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ โพลีแซคคาไรด์ (galactomannan), นิวคลีโอไทด์ (adenosine, cordycepin), cordycepic acid, กรดอะมิโน และสเตอรอล (ergosterol, beta-sitosterol) นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารอาหารสำคัญอื่น ๆ เช่น โปรตีน วิตามินต่างๆ ( Vit E, K, B1, B2 และ B12) และแร่ธาตุต่าง ๆ (โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี และซิลิเนียม) เป็นต้น
รายงานการวิจัยในคน
ถึงแม้ว่า “ถั่งเช่า” มีการใช้อย่างแพร่หลายและมีราคาสูง แต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาในคนอย่างเป็นระบบมีน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นกรณีศึกษาเท่านั้น ตัวอย่างเช่น

  • กรณีศึกษาฤทธิ์ต่อการกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ พบว่าการวิจัยในผู้ชาย 22 คน ใช้ถั่งเช่าเป็นอาหารเสริม พบว่าช่วยเพิ่มจำนวนของสเปิร์มในอสุจิได้ 33% และมีผลลดปริมาณของสเปิร์มที่ผิดปกติลง 29% และมีอีกกรณีศึกษาในผู้ป่วยทั้งชายและหญิง 189 คน ที่มีความต้องการทางเพศลดลง พบว่าถั่งเช่าสามารถช่วยทำให้อาการและความต้องการทางเพศสูงขึ้น 66% นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยสนับสนุนว่าการรับประทานถั่งเช่าจะช่วยปกป้องและช่วยให้การทำงานของต่อมหมวกไต ฮอร์โมนจากต่อมไทมัส และจำนวนของสเปิร์มที่สามารถปฏิสนธิได้เพิ่มขึ้น 300 % และช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศของผู้หญิงได้ 86%
  • กรณีศึกษาฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยทำการศึกษาในผู้ชาย 5 คน (อายุเฉลี่ย 35 ปี) ที่ถุงลมถูกกระตุ้นให้อักเสบด้วย lipopolysaccharide (LPS) พบว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดการสร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น interlukin-1beta (IL-1beta), interlukin-6 (IL-6), interleukin-8 (IL-8), interleukin-10 (IL-10) และ tumor necrosis factor-alpha (TNF-alpha) ได้ จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น
  • กรณีศึกษาฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยการให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานถั่งเช่าปริมาณ 3 กรัม/วัน พบว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 95% ในขณะที่กลุ่มที่รักษาด้วยยาแผนปัจจุบันสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้เพียง 54%
  • กรณีศึกษาฤทธิ์ต่อการฟื้นฟูระบบการทำงานของไต โดยให้ผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรังรับประทานถั่งเช่าปริมาณ 3-5 กรัม/วัน พบว่าถั่งเช่าทำให้การทำงานของไตมีประสิทธิภาพดีขึ้น และพบว่าหลังจากให้ผู้ป่วยรับประทานถั่งเช่าต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 1 เดือน สามารถช่วยลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดจากภาวะไตวาย ได้แก่ ลดความดันโลหิต ลดระดับโปรตีนในปัสสาวะ ลดการเกิดภาวะโลหิตจาง และช่วยเพิ่มเอนไซม์ superoxide dismutase (SOD) ซึ่งป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีรายงานว่าการให้ผู้ป่วยที่การทำงานของไตบกพร่องจากการใช้ยา gentamicin รับประทานถั่งเช่า 4.5 กรัม/วัน มีผลทำให้ระบบการทำงานของไตดีขึ้นเป็นปกติ 89 % เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมหลังจากรับประทานถั่งเช่าภายใน 6 วัน

การศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
เป็นการทดลองในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง พบว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์ปรับสมดุลของร่างกาย กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านมะเร็ง ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านการอักเสบ และกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น
ข้อควรระวัง
  1. ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ จะไปเสริมฤทธิ์กับยาลดน้ำตาลในเลือด
  2. ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
  3. ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน (immunosuppressive) ทั้งนี้เพราะว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

“ถั่งเช่า” ถือได้ว่าเป็นสมุนไพรสุดฮิตในปัจจุบัน เป็นการใช้ตามสรรพคุณของภูมิปัญญาที่มีมานานกว่าศตวรรษ แต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะการศึกษาทางคลินิกยังมีน้อย ฉะนั้นการใช้ถั่งเช่าจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะ ถั่งเช่ามีราคาสูงมาก ทั้งนี้ยังพบว่าในท้องตลาดมีถั่งเช่าหลายระดับคุณภาพมาก ตามภูมิปัญญาของจีนมีการจัดคุณภาพของถั่งเช่าเป็น 3 ระ ดับ ระดับที่ดีที่สุด ความยาวของตัวเห็ดจะเท่ากับความยาวของตัวหนอน (ประมาณ 3-4 เซนติเมตร) ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าสีทองซึ่งเป็นเห็ดสกุลเดียวกับตังถั่งเช่า (Cordyceps) แต่คนละชนิด (species) และมีการกล่าวอ้างว่ามีคุณภาพดีกว่าตังถั่งเช่า ซึ่งจะต้องมีการศึกษาพิสูจน์ต่อไป นอกจากนี้ขนาดบริโภคของผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 18 ปี) ในแต่ละวัน ประมาณ 3-9 กรัม ชงกับน้ำร้อน หรือประกอบอาหาร ขนาดการใช้ที่มากเกินไปอาจจะก่อเกิดผลเสียได้ การใช้ในหญิงมีครรภ์ หญิงในนมบุตร และในเด็ก ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ และห้ามใช้ในคนที่แพ้เห็ด Cordyceps ผู้ป่วยที่มีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และผู้ป่วยที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติ ฉะนั้นจึงควรระมัดระวังในการใช้และควรมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการใช้ถั่งเช่าในการรักษาโรคเพื่อความปลอดภัยและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค
เอกสารอ้างอิง
  1. http://www.naturalstandard.com/
  2. Shashidhar MG, Giridhar P, Udaya Sankar K, Manohar B. Bioactive principles from Cordyceps sinensis: A potent food supplement – A review. J Functional Food 2013;5(3):1013-30.
 
 
 
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/153/%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E-%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD/
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม www.takenthailand.com
www.facebook.com/takenthailand

ถังเช่า สมุนไพรสริมสมรรถภาพทางเพศ บำรุงอสุจิ

ถั่งเช่า (chong cao) หรือ ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า (dong chong xia cao) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ophiocordyceps sinensis จัดเป็นสมุนไพรจีน ซึ่งมีความหมายว่า “หญ้าหนอน” หรือ “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” สามารถพบได้ในทิเบต มณฑลชิงไห่ มณฑลเสฉวน มณฑลยูนนาน มณฑลกานซู แถบเทือกเขาหิมาลัยในอินเดีย ภูฏาน และเนปาล
สมุนไพรถั่งเช่า หรือ ตังถั่งเช่า คือ สมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่ดูคล้ายตัวหนอนกระจิ๋ว บางคนเรียกว่า “หญ้าหนอน” หรือในบางตำราจะเรียกว่า “หนอนตายอยากก็เรียก” ถั่งเช่า เป็นเห็ดราชนิดหนึ่งชอบขึ้นในช่วงฤดูหนาว และเป็นปรสิตอาศัยอยู่กับตัวอ่อนของหนอนชนิดหนึ่ง เมื่อถึงฤดูร้อนตัวหนอนจะตาย แล้วเห็ดราก็จะงอกออกจากตัวหนอน ออกมาเป็นเส้น ตรงส่วนของหัวของหนอน ซึ่งเราจะเรียกว่า “ถั่งเช่า” หรือ “เห็ดถั่งเช่า
 
สมุนไพรจีนถั่งเช่า เป็นสมุนไพรที่มีราคาและความต้องการของตลาดสูงมากๆ โดยถั่งเกรดล่างๆหรือเกรดทั่วไปของถั่งเช่า ราคาประมาณกิโลกรัมละ 250,000 บาท แต่ถ้าเป็นเกรดคุณภาพดีๆ จะมีราคาสูงถึง 2,500,000 บาทขึ้นไป !!! (โดยราคาจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย หน้าไหนมีของน้อยราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย แต่จะไม่หนีราคามาตรฐานเท่าไหร่)
หญ้าหนอน
ตังถั่งเช่า
มีหลายคนสงสัยว่าทำไมสมุนไพรจีนชนิดนี้มันถึงได้แพงมหาศาลขนาดนี้? เนื่องจากจะหายากแล้ว สมุนไพรชนิดนี้ยังมีงานวิจัยทั่วโลกที่มีการรับสรรพคุณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย บำรุงหลอดเลือด และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้กับคุณผู้ชายอีกด้วย
หลายคนๆ กินถั่งเช่าด้วยเหตุผลว่าอยากหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงของยาไวอกร้า ที่เมื่อใช้งานแล้วนกเขาไม่ยอมหด จึงคิดว่าการกินถั่งเช่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพราะใช้งานแล้วก็แล้วกัน ซึ่งตรงนี้ไม่เป็นความจริงเท่าไหร่ เพราะถั่งเช่ามีผลต่อผู้สูงวัยที่มีภาพวะความดันสูง หรือเป็นโรคเบาหวาน หากใช้ในปริมาณมากอาจจะทำให้ความร้อนและความดันเพิ่มขึ้น ทำให้โรคประจำตัวมีอาการรุนแรงมากกว่าเดิม
เห็ดถั่งเช่ายาบำรุงสมุนไพรจะมีอยู่ด้วยกันหลายขนาด แบ่งเป็นยาบำรุงอย่างอ่อน อย่างกลาง และอย่างแรง โดยถั่งเช่าจัดเป็นยาบำรุงอย่างแรง การใช้สมุนไพรชนิดนี้จึงต้องให้แพทย์เป็นคนสั่งจ่ายและต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น สำหรับในทางสรรพคุณของถั่งเช่า ถ้าร่างกายของคุณไม่ได้อ่อนเพลียหรือเป็นอะไรมากจริงๆ ก็ควรจะใช้สมุนไพรชนิดอื่นที่มีสรรพคุณคล้ายๆกันแทนไปก่อน เช่น ตัวเต็กสี่ที่มีสรรพคุณคล้ายถั่งเช่า และสามารถใช้แทนถั่งเช่าได้

สรรพคุณถั่งเช่า

  1. เห็ดถั่งเช่า สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เพิ่มภูมิต้านทานโรค ทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย
  2. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ชราและความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
  3. ช่วยในด้านอารมณ์ ช่วยระงับประสาท ทำให้จิตใจสงบ ลดอาการหงุดหงิดง่าย
  4. ช่วยเพิ่มความจำ ป้องกันโรคความจำเสื่อม ช่วยลดการตายของเซลล์ในมอง
  5. ตังถั่งเช่า สรรพคุณช่วยบำรุงหลอดเลือด
  6. ช่วยบำรุงปอด ช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก
  7. ช่วยในเรื่องระบบทางเดินหายใจ แก้อาการไอเรื้อรัง รักษาถุงลมโป่งพอง ช่วยบำบัดโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  8. ช่วยบรรเทาและรักษาอาการของโรคหอบหืด
  9. ช่วยแก้วัณโรค ถุงลมโป่งพองหรืออาการผิดปกติในระบบปอดและหัวใจ
  10. ช่วยละลายเสมหะ หยุดอาการเลือดออกทางเสมหะ
  11. เชื่อว่ามันช่วยรักษามะเร็ง ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งและลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้
  12. ช่วยลดความดันโลหิต อาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว
  13. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยเบาหวานไวต่ออินซูลินมากขึ้น ช่วยจัดการน้ำตาลในร่างกายได้ดีขึ้น
  14. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และรักษาสมดุลของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด
  15. ช่วยต่อต้านไม่ให้เกิดไขมันแข็งตัวจากการถูกออกซิไดซ์โดยอนุมูลอิสระ
  16. ช่วยป้องกันไขมันเลว (LDL) ไม่ให้เกาะในหลอดเลือด
  17. ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้คล่องตัว ช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มปริมาณของเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงปอดและหัวใจ เพิ่มระดับออกซิเจนและช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการขาดออกซิเจน
  18. ช่วยบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของตับและไตให้ดีขึ้น
  19. จากงานวิจัยพบว่าถั่งเช่าช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตวายเรื้องรัง มีอาการดีขึ้นมากถึง 51% หลังจากรักษาด้วยถั่งเช่าเพียง 1 เดือน
  20. สรรพคุณของถั่งเช่า ช่วยรักษาคนไข้ที่ธาตุหยางพร่องในไต (หรืออาการปวดหลัง กลัวหนาว หัวเข่าเย็น หรือปัสสาวะบ่อย)
  21. มีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งพิษจากแบคทีเรีย รวมไปถึงแบคทีเรียวัณโรคด้วย
  22. ถั่งเช่า สรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
  23. สรรพคุณ ถั่งเช่าช่วยห้ามเลือด
  24. สำหรับนักกีฬาสมุนไพรชนิดนี้จะช่วยเพิ่มสมรรถนะของนักวิ่งให้ดียิ่งขึ้น
  25. ประโยชน์ถั่งเช่าสำหรับสตรี ใช้เป็นยาบำรุงช่วยทำให้มีบุตรง่ายขึ้น ช่วยปรับประจำเดือน ทำให้เลือดลมเดินดีขึ้น
  26. ประโยชน์ของถั่งเช่า ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ มีฤทธิ์บำรุงกำลังทางเพศ ช่วยให้อสุจิแข็งแรง เนื่องจากการกินถั่งเช่าจะส่งผลให้มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศมากขึ้น ซึ่งจากงานวิจัยในต่างประเทศพบว่าการกินถั่งเช่าวันละ 1 กรัม เป็นเวลา 46 วันจะช่วยให้สมรรถภาพทางเพศเพิ่มมากขึ้นถึง 64% เลยทีเดียว (แต่ยังไม่มีงานวิจัยรับรองมากนัก นอกจากงานวิจัยที่ได้ทดลองในหมูป่าที่พบว่ามันมีสรรถภาพทางเพศที่ดีขึ้น)

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม www.takenthailand.com
www.facebook.com/takenthailand

L-Arginine ตัวเลือกแรกๆในการบำรุงทางเพศ (อาหารเสริมสมรรถภาพทางเพศ และบำรุงหัวใจ)

แอล-อาร์จินีน (L-Arginine) อาหารเสริมที่ออกฤทธิ์คล้ายยาเม็ดสีฟ้าที่ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ


แอล-อาร์จินีน (L-Arginine) คือกรดอะมิโน ที่ถือว่าเป็น "โมเลกุลมหัศจรรย์" มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมหาศาลเพราะ L-Arginine จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิต ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) เพื่อช่วยในเรื่องการขยายตัวของหลอดเลือด รวมทั้งกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการคงความเป็นหนุ่มเป็นสาว ช่วยชะลอความชรา
อาร์จีนีนเป็นกรดอะมิโนที่มีความปลอดภัยสูง ช่วยขยายหลอดเลือดทั่วร่างกาย หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง รวมทั้งหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงน้องชายและน้องสาว ผลต่อน้องชายทำให้สามารถปฏิบัติกิจกรรมบนเตียงได้เนิ่นนานขึ้นและไม่เป็นอันตรายต่อหัวใจ เพราะออกฤทธิ์คนละจุดกับยาเม็ดสีฟ้า ซ้ำยังค่อยๆออกฤทธิ์ สามารถรับประทานต่อเนื่องทุกวันได้ โดยขยายหลอดเลือดทั่วร่างกายให้มีเลือดและสารอาหารไปบำรุงทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งช่วยให้น้องชายแข็งตัวได้ดีและนานพอตามความต้องการ
เรามักพบ แอล-อาร์จินีน จำหน่ายนลักษณะในรูปแคปซูล หรือในรูปเม็ดผสมกับสมุนไพรตัวอื่นที่ช่วยเสริมสมรรถภาพเช่น โสม ตงกัตอาลี ตังกุย กระชายดำ ลูกใต้ใบ ใบย่านาง ลูกกระดอม ซึ่งมีผลบำรุงสมรรถภาพทางเพศทั้งนั้น

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม www.takenthailand.com
www.facebook.com/takenthailand

การทำงานของ L-Arginine ไวอากร้าธรรมชาติ อาหารเสริมสมรรถภาพยอดนิยม

L-Arginine แอล-อาร์จีนีน  สารอาหารเพื่อสุขภาพทางเพศ ออกฤทธิ์ใกล้เคียงไวอากร้า

โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) คือ ภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอหรือไม่นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ สาเหตุหลักเกิดจากเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศไม่เพียงพอ ซึ่งโรคนี้มักเกิดกับเพศชายที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป

แอล-อาร์จินีน เป็นกรดอะมิโน (Amino Acid) จำเป็นตัวหนึ่งที่ร่างกายต้องการ เป็นสารตั้งต้นในการสร้างไนตริคอ๊อกไซด์ ( Nitric Oxide ) ซึ่งมีผลในการทำให้หลอดเลือดขยายตัว (Blood Vessel Dilate) ส่งผลให้อวัยวะต่างๆสามารถรับออกซิเจน จากเลือดได้มากขึ้น บำรุงสุขภาพสำหรับท่านชายบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรงสำหรับท่านชาย สามารถรับประทานได้ทั้งท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี

ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) คืออะไร
ไนตริกออกไซด์ ได้ชื่อว่าเป็น “วีรบุรุษของร่างกาย" หรือ The New Hero of Human Biology ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ 3 ท่าน คือ Louis J.lgnarro,Robert Furchgot and Ferid Murad ได้ค้นพบคุณประโยชน์ของไนตริกออก ไซด์จนได้รับรางวัลโนเบล เมื่อปี 1998 นี้เอง
 

โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) คืออะไร
โกรทฮอร์โมนคือ ฮอร์โมนที่ผลิตมาจากต่อมใต้สมอง เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมร่างกาย ไปตลอดชีวิต แต่จะผลิตน้อยลงเรื่อยๆ หลังอายุ 23 ปี นั่นคือ ความแก่ชราที่จะมาเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง คนเราเมื่อแก่ชรา ทุกระบบของร่างกายก็เริ่มเสื่อม รวมทั้งสมรรถภาพทางเพศด้วย ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป ได้นำโกรทฮอร์โมนมาใช้ในวงการแพทย์ และสถาบันต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย ในการที่ช่วยให้คนเราย้อนวัยกลับไปเป็นหนุ่มสาวได้อีกครั้ง จากผลการศึกษาพบว่าแอลอาร์จินินสามารถเพิ่มโกรทฮอร์โมนได้ถึง 300%
 

 

ประโยชน์ของแอลอาร์จินิน ในแง่ของการรักษาโรค ED หรือโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ กลไกการออกฤทธิ์ของแอลอาร์จินิน ให้ผลเช่นเดียวกับยา ไวอากร้า แต่วิธีการของแอลอาร์จินินจะทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยแอลอาร์จินิน ที่กินเข้าไป ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไนตริกออกไซด์ มีผลให้หลอดเลือดแดงที่อยู่บริเวณอวัยวะเพศเกิดการขยายตัว ส่งผลให้มีการไหลเวียนของเลือดที่อวัยวะเพศมากขึ้น และคั่งค้างอยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย จึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องเซ็กส์ในคุณผู้ชายได้อย่างยอดเยี่ยม สมกับที่นักวิทยาศาสตร์บางคนให้สมญานามของแอลอาร์จินินว่า “ไวอากร้าธรรมชาติ” 

กลไกการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
  • ต้องเริ่มรู้สึกถึงความต้องการทางเพศก่อน ซึ่งเกิดจากสมองได้รับการกระตุ้นโดยสิ่งเร้าต่าง ๆ เช่น รูป กลิ่น เสียง สัมผัส และจินตนาการ
  • ส่งผ่านความรู้สึกไปยังประสาทไขสันหลังและไปกระตุ้นอวัยวะเพศส่งผลให้เลือดไหลเข้าอวัยวะเพศ
  • สุดท้ายกล้ามเนื้อลายบริเวณอวัยวะเพศมีการขยายตัว ส่งผลให้เลือดเข้าไปบริเวณอวัยวะเพศและก่อให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้เต็มที่
สาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
  1. อายุ –อายุที่เพิ่มขึ้น โอกาสเป็นโรคนี้ก็มากขึ้น
  2. เศรษฐกิจ - ผู้ที่มีรายได้สูง มีความรู้ และอาชีพที่ดี มักจะไม่มีปัญหาของโรคนี้
  3. โรคประจำตัว- เบาหวาน โรคไต โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน เป็นต้น
  4. ยา – ยาบางชนิดมีผลทำให้ความต้องการทางเพศลดลงหรืออาจทำให้เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
  5. พฤติกรรมการใช้ชีวิต- การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา และไม่ออกกำลังกาย
ประโยชน์ของ L-Arginine
  • แอล-อาร์จินีน เป็นกรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acid) ที่ร่างกายต้องการ
  • เป็นสารตั้งต้นในการสร้างไนตริคออกไซด์ (Nitric Oxide) ซึ่งมีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว (Vasodilate) ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้รับออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ จากเลือดมากขึ้น
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อาทิเช่น หลอดเลือดแข็งตัว ความดันโลหิต กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และภาวะหัวใจล้มเหลว
  • ช่วยเสริมสร้างการสังเคราะห์โปรตีน ทำให้แผลหายเร็วขึ้น (Wound Healing)
  • ช่วยกำจัดของเสียจำพวกสารประกอบแอมโมเนียม (Ammonium Compounds) ที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญสารอาหารในร่างกาย
  • กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  • กระตุ้นและควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนหลายชนิดในร่างกาย เช่น Glucagon Insulin และ Growth Hormone
  • ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในชาย โดยไปเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและจำนวนเชื้ออสุจิ
  • ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ประโยชน์ของแอลอาร์จินินในด้านอื่นๆ 
- สารไนตริกออกไซด์ที่ได้ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้นความดันโลหิตก็จะลดลง กล้ามเนื้อทั่วร่างกายก็จะได้รับออกซิเจนมากขึ้นด้วย
- ช่วยลดความเครียด ทำให้นอนหลับสบาย และมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
- ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ร่างกายกระฉับกระเฉง ดูอ่อนกว่าวัย ออกกำลังกายได้นานขึ้น
- ช่วยเพิ่มความรู้สึกทางเพศ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มจำนวนของอสุจิ ทำให้อสุจิแข็งแรง และเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น
- ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหลั่งฮอร์โมนต่างๆ
- ช่วยเยียวยา รักษาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
 


สนใจข้อมูลเพิ่มเติม www.takenthailand.com
www.facebook.com/takenthailand